คีโตเจนิค ไดเอต (Ketogenic Diet)
ขนาดความรักยังมีจุดอิ่มตัว สายกินที่แท้ทรูก็มีวันที่อยาก Diet กันบ้างแหละครับ แต่จะให้ผมหันไปกินแต่ผัก ผลไม้ อาหารคลีน ออกกำลังกายตามฟิตเนสก็คงไม่ใช่ทาง เลยลองหาวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ๆ ดูบ้าง จึงได้รู้จัก “คีโตเจนิค” (Ketogenic Diet) นี่แหละครับ ที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับสายกินอย่างผมมากที่สุด สำหรับใครที่ไม่เคยรู้จักเลย งั้นผมขออาสาอธิบายให้ฟังคร่าวๆ ได้ครับ
คีโตเจนิค ไดเอต คืออะไร?
คีโตเจนิค เป็นการลดน้ำหนักอีกทางเลือกหนึ่ง โดยเลือกกินอาหารหมู่คาร์โบไฮเดรตให้น้อยที่สุด เช่น ขนมปัง ข้าว แป้ง และน้ำตาล (หรือบางรายอาจไม่แตะเลย) แต่ให้เน้นกินอาหารหมู่โปรตีน และไขมันดีควบคู่กันไป 75%-85% ต่อวัน เป็นการปรับร่างกายให้เข้าสู่ภาวะเลียนแบบการอดอาหาร เพื่อให้ร่างกายดึงไขมันที่เก็บสะสมไว้มานาน เอาออกมาใช้เป็นพลังงานแทนน้ำตาลครับ
แล้วอาหารอะไรบ้าง ที่เราสามารถกินได้ในช่วงคีโตเจนิค โดยไม่ผิดกฎ
อันดับแรกเลยต้องเป็นอาหารไขมันดีๆ ที่ต้องมีกรดไขมันโอเมก้าทรี, กรดไขมันโอเมก้า 6 และกรดไขมันอิ่มตัวที่มีสายปานกลาง โอ้โห! แล้วอาหารอะไรที่มีกรดพวกนี้บ้าง ก็พวกเนย ไข่แดง ปลาทูน่า ปลาเทราต์ หอย ยังไงล่ะครับ รวมถึงธัญพืชที่มีกรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว ได้แก่ ถั่วแมคคาเดเมีย อโวคาโด น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดลินิน และน้ำมันดอกคำฝอย ซึ่งน้ำมันทุกชนิดที่ผมบอกควรเลือกกินแบบสกัดเย็นเท่านั้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ด้วย เช่น มาการีน
ต่อมาเป็นหมู่โปรตีนกันบ้าง ผมแนะนำไข่ไก่ ชีส ครีม วิปปิ้งครีม เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อลูกวัว เนื้อหมูสันนอก เนื้อหมูติดซี่โครง หรือพอร์คชอป และปลา เช่น ปลาดุก ปลาค็อด ปลาตาเดียว ปลาแมกเคอเรล ปลามาฮิ-มาฮิ ปลาแซลมอน ปลากระพงแดง ปลาเทราต์ ปลาทูน่า นอกจากนี้ยังรวมอาหารประเภทถั่วด้วยครับ เช่น แมคคาเดียเมีย วอลนัท อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ พิตาซิโอส เป็นต้น ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงคือถั่วลิสง เพราะจัดอยู่ในถั่วที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงครับ
อันสุดท้ายนี่สำคัญ ถ้าไม่กินชาตินี้ไม่เห็นตัวเองผอมแน่ๆ และมันคือน้ำเปล่าครับ ถึงแม้เราจะอยู่ในช่วงคีโตเจนิคแต่ก็ต้องรักษาความชุ่มชื้นให้ร่างกายด้วย ซึ่งควรดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว (ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว) นอกจากนี้ยังสามารถดื่มชาสมุนไพร กาแฟสูตรหวานน้อยได้ด้วยครับ
หากสาวๆ หนุ่มๆ คนไหนสนใจอยากใช้สูตรนี้ในการลดน้ำหนัก ขอแนะนำว่าควรศึกษาข้อมูลให้มากกว่านี้ครับว่ามันเหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ แน่นอนว่าเมื่อมันมีข้อดีแล้ว ย่อมต้องมีข้อเสียที่อาจมีผลต่อร่างกายของคุณในอนาคตด้วยครับ
